บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ตุลาคม, 2018

เกษียณแล้ว.. ทำอะไรดี

รูปภาพ
                                           เกษียณแล้ว.. ทำอะไรดี ที่มา : https://th1-cdn.pgimgs.com/cms/news/2017/04/20600077_xl.original.jpg “ความชราคือการเดินทางครั้งใหม่” ผมเชื่อว่าอย่างนั้น    ในขณะที่วัยรุ่นทุกคนเชื่ออย่างเต็มอกว่าชีวิตคือการเดินทาง ภาพจุดหมายของพวกเขาเหล่านั้นมักจบด้วยภาพวัยชราของตัวเองนั่งจิบน้ำชายามสาย พร้อมมองลูกหลานวิ่งเล่นอย่างเอ็นดู หากแต่แท้จริงแล้วชีวิตยังมีมิติอื่นที่เราไม่เคยพบเจออยู่เสมอ วัยแห่งการเรียนรู้ไม่เคยหยุดนิ่ง บรรยากาศอบอุ่นในห้องนั่งเล่นเมื่อลูกหลานมาเยี่ยมเยียนไม่ใช่ปลายทางของชีวิต พลังและศักยภาพของคำว่า “ความสูงวัย” นั้นมักถูกจำกัดไว้โดยเจ้าตัวเอง ทำไมผู้สูงวัยส่วนใหญ่เลือกจะฝังประสบการณ์และศักยภาพล้ำค่าของตนไว้ใต้คำว่า “แก่” เพียงคำเดียว      https://fthmb.tqn.com/qJvU2KzVwDJacc8XuEnjrqRgkto=/300x200/filters:saturation(0.2):brightness(10):contrast(5):no_upscale()/GettyImages-184829119-580f3e135f9b58564cb0a8df.jpg อย่าหยุดที่จะมองเห็นคุณค่าในตนเอง 1. ประสบการณ์ อย่าให้คนหนุ่มมองว่าเราเตะปี๊บไม่ดัง ถูกทีเดียวที่ว่าโลกยุคเปลี่ยนไปอย่างรวด

ภาวะแทรกซ้อนจากความดันโลหิตสูง

รูปภาพ
ภาวะแทรกซ้อนจากความดันโลหิตสูง             โรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่ส่งผลต่อหลอดเลือดแดงแทบทุกส่วนของร่างกาย ถ้าหากทิ้งไว้นานโดยที่ไม่รีบทำการรักษา โรคความดันโลหิตสูงสามารถก่อให้เกิดภาวะหลอดเลือดตีบ ภาวะหลอดเลือดแข็ง ทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนนำไปสู่การเกิดความผิดปกติต่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายตัวผู้ป่วย เช่น       - สมอง ถ้าหากเลือดไม่สามารถไปเลี้ยงสมองได้ อาจทำให้เกิดภาวะสมองตีบหรือแตก กลายเป็นโรคอัมพาตครึ่งซีก ซึ่งพบได้บ่อยในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง หรืออาจจะกลายเป็นโรคความจำเสื่อม สมาธิสั้นลง แต่ในบางรายถ้าหากเส้นเลือกฝอยที่สำคัญในสมองแตกก็อาจส่งผลให้เสียชีวิตได้ หรือในผู้ป่วยที่ความดันขึ้นสูงอย่างฉับพลันก็อาจทำให้เกิดอาการชักหรือหมดสติได้       - ตา โรคความดันโลหิตสูงจะค่อย ๆ ส่งผลให้เส้นเลือดแดงในดวงตาเสื่อมลงอย่างช้า ๆ เมื่อเวลาผ่านไปหลอดเลือดที่บริเวณตาอาจตีบหรือตัน อาจมีเลือดออกที่ดวงตา ตามัวลงเรื่อย ๆ จนอาจส่งผลให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรไปในที่สุด       - หัวใจ เมื่อเส้นเลือดที่คอยหล่อเลี้ยงหัวใจตีบลง จะทำให้เกิดโรคหัวใจขาด

ประโยชน์ของโสม

รูปภาพ
ประโยชน์ของโสม         โสมเป็นสมุนไพรที่ได้รับการวิจัยทางการแพทย์แล้วว่ามีสรรพคุณต่อร่างกายเป็นอย่างสูง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการบำรุงรักษาร่างกายหรือแม้กระทั่งการรักษาโรคร้ายต่าง ๆ โดยไม่มีผลข้างเคียง รวมถึงไม่ก่อให้เกิดการเสพติดเหมือนยาของแพทย์แผนปัจจุบันบางชนิดอีกด้วย หากมองย้อนกลับไปในแง่ประวัติศาสตร์ โสมถูกใช้เป็นส่วนผสมของยารักษาให้แก่จักรพรรดิและเหล่าราชวงศ์ และเรายังเห็นได้อยู่ในทุกวันนี้ แสดงให้เห็นว่าโสมนั้นมีประวัติการใช้งานมาอย่างยาวนาน จนทุกวันนี้โสมได้รับฉายาว่าเป็น “ราชาสมุนไพร” ประโยชน์ต่อสมรรถภาพร่างกาย             โสมมีฤทธิ์ช่วยป้องกันความอ่อนเพลีย ความเมื่อยล้าจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ ช่วยให้ร่างกายสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้นานขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การทำงานใช้แรงงานต่าง ๆ ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น กระปรี้ประเปร่า นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันความชรา ช่วยให้ร่างกายสามารถสร้างเซลล์ใหม่ของอวัยวะต่าง ๆ เพื่อให้ทำงานได้มีประวิทธิภาพมากขึ้น ประโยชน์ต่อการไหลเวียนของโลหิต             โสมช่วยให้เลือดในร่างกายสามารถไหลเวียนได้ดีมากยิ่งขึ้น ทำความสะอาดหลอดเลือด ขจัดไขมันตาม

คุณเสี่ยงเป็นเบาหวานหรือไม่

รูปภาพ
คุณเสี่ยงเป็นเบาหวานหรือไม่ กลุ่มเสี่ยงหรือพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน      กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน คือ กลุ่มคนที่มีโอกาสจะเป็นโรคเบาหวานมากกว่าคนเฉลี่ยทั่วไปโดยมีสาเหตุอยู่หลายประการ เช่น        -  มีญาติสายตรงเป็นเบาหวาน        -  เป็นโรคอ้วน (คนไม่เป็นโรคอ้วนก็สามารถเป็นเบาหวานได้)        -  เป็นความดันหรือมีไขมันในเลือดสูง        -  ชอบทานอาหารขยะที่เต็มไปด้วยแป้งและไขมัน        -  ชอบดื่มน้ำหวานที่มีน้ำตาลสูง        -  ออกกำลังกายน้อย       คนที่มีพฤติกรรม/ลักษณะดังกล่าวข้างต้นควรจะเข้ารับการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อที่จะสามารถประเมินตนเองถึงระดับวามเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานจนนำไปสู่การป้องกันก่อนการ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อนเป็นโรคเบาหวาน เพราะผู้ป่วยโรคเบาหวานจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทำให้เกิดความยากลำบากในการดำเนินชีวิตมากขึ้น สามารถทำได้เพียงการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติมากที่สุด วิธีการตรวจน้ำตาลในเลือด การตรวจน้ำตาลในเลือดสามารถทำได้หลายวิธี เช่น         1. การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง

ลดเบาหวานด้วย FOREVA ฟอร์รีว่า

รูปภาพ
FOREVA ฟอร์รีว่า หนึ่งเดียวที่ผสาน 4 คุณค่าสมุนไพร  ถั่งเช่า โสม เห็ดหลินจือ และกระชายดำ ลดเบาหวาน ลดความดัน ปรับสมดุลหยิน-หยางในร่างกาย บำรุงพลังชีวิต ในช่วงระยะเวลากว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมานี้ กระแสนิยมในเรื่องของสุขภาพ ไม่ว่าจะในระดับโลกหรือในสังคมไทย ดูเหมือนจะหันกลับไปสู่วิถีธรรมชาติมากขึ้น ทำให้เกิดการคิดค้น วิจัย และพัฒนาองค์ความรู้หรือ ศาสตร์ด้านสมุนไพร และการแพทย์แผนตะวันออกให้เป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น  การนำเอาสมุนไพรมาเป็นทั้งยาและอาหาร ซึ่งเปรียบเสมือนของขวัญจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นตัวเลือกหลักที่แพทย์แผนตะวันออกนำมาใช้ในการบำรุงสุขภาพ การบำบัดและรักษาโรคให้กับผู้ป่วยมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน  สมุนไพรที่นำมาใช้ในทางการแพทย์แผนจีนนั้น ในปัจจุบันมีมากมายกว่า 10,000 ชนิด ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป แต่สมุนไพรแห่งโลกตะวันออกที่รู้จักกันดีและใช้กันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลกนั้นมีอยู่เพียงไม่กี่ชนิด เช่น ถั่งเช่า โสม เห็ดหลินจือ และกระชายดำ ซึ่งเป็นเป็น 4 สมุนไพรที่ถูกกล่าวขาน และนำมาใช้มากที่สุดในวงการแพทย์ตะวันออก    ถั่งเช่า